“พระพุทธเมตตา…พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่พุทธคยาสถาน”

หนึ่งในศาสนวัตถุสำคัญที่ประดิษฐานอยู่ในบริเวณพุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกนิยมเดินทางไปกราบสักการะกันมาก ก็คือองค์ “พระพุทธเมตตา”
ซึ่งเป็นพระพุทธปฏิมาอันงดงาม ประดิษฐาน ณ ห้องบูชาชั้นล่างสุดของพระมหาเจดีย์พุทธคยา ในวัดพระมหาโพธิ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระโคตมพุทธเจ้า
พระพุทธเมตตา มีอายุกว่า ๑,๔๐๐ ปี แกะสลักจากหินแกรนิตสีดำเนื้อละเอียด เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยราชวงศ์ปาละ หรือที่คนไทยเรียกว่าพระพุทธรูปปางชนะมาร และคนอินเดียเรียกว่าปางภูมิสัมผัส หรือปางภูมิผัสสะ ด้วยพระพักตร์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและอ่อนโยน จึงทำให้พุทธศาสนิกชาวไทยให้สมญานามท่านว่า “พระพุทธเมตตา”

ตามประวัติ พระพุทธเมตตาเป็นองค์พระที่รอดพ้นจากการถูกทำลายของกษัตริย์ฮินดู แห่งรัฐเบงกอล ที่มีพระนามว่าพระเจ้าศะศางกา ในสมัยศตวรรษที่ ๑๓ พระเจ้าศะศางกาไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นมคธ ซึ่งมีพระเจ้าปุรณวรมา เป็นผู้ปกครองในสมัยนั้น ต้องการประกาศตนเป็นอิสระ จึงได้ยกทัพมาทำลายจุดศูนย์กลางของแคว้นมคธ ซึ่งก็คือบริเวณดินแดนพุทธคยา ด้วยหมายจะทำลายขวัญและกำลังใจของกษัตริย์และประชาชนเสียก่อน แล้วจึงค่อยยกทัพไปตีเมืองหลวงในขั้นต่อไป เพราะบริเวณพุทธคยานี้มีต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระพุทธเมตตาที่เป็นหัวใจสำคัญที่ชาวพุทธแคว้นมคธให้ความเคารพนับถือกราบไหว้บูชากันมาก เมื่อพระเจ้าศะศางกาได้เข้ายึดบริเวณพุทธคยาได้แล้ว ก็รับสั่งให้ทหารขุด เผาและทำลายต้นพระศรีมหาโพธิ์ (ซึ่งภายหลัง พระเจ้าปุรณวรมา ได้เสด็จมาพบก็ทรงเร่งให้บูรณะพระศรีมหาโพธิ์ขึ้นใหม่) และจากนั้นก็สั่งให้ทหารบุกทำลายองค์พระพุทธเมตตาอันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวพุทธแห่งแคว้นมคธ แต่แม่ทัพที่ได้รับมอบหมายพอเห็นองค์ท่านก็ไม่กล้าที่จะทำลายด้วยการเกรงกลัวต่อบาป แต่ครั้นจะไม่ทำลายก็เกรงพระราชอาญา อาจจะถูกประหารทั้งครอบครัว จึงตัดสินใจซ่อนองค์พระพุทธปฏิมาเอาไว้ โดยการโบกกำแพงปูนปิดองค์พระไว้ภายในพร้อมจุดประทีปวางบูชาไว้ ทำประหนึ่งว่าเหลือแต่ผนัง และได้กราบทูลให้พระเจ้าศะศางกาทรงทราบว่าได้ทำลายองค์พระแล้ว และต่อมาไม่นานพระเจ้าศะศางกา ก็เกิดประชวรอย่างปัจจุบันทันด่วน และได้สิ้นพระชนม์ในกาลไม่นาน เมื่อพระเจ้าปูรณวรมาได้ยกกองทัพมาถึงและทราบข่าวก็ได้รีบให้ทุบกำแพงนั้นเสีย ได้พบเหตุอัศจรรย์ใจว่า ประทีปที่จุดไว้ภายในนั้นยังส่องแสงสว่างโดยไม่ดับ จึงทรงได้ตั้งอารักขาองค์พระไว้เป็นอย่างดี และจัดบูชาองค์พระพุทธเมตตาอย่างยิ่งใหญ่
